อภิปรายไม่ไว้วางใจ

อภิปรายไม่ไว้วางใจ “อนุทิน” แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ลั่น “กัญชา” ไม่ผิดกติการะหว่างชาติ ไม่มีช่องโหว่ในทางปฏิบัติ
“อนุทิน” ตอบข้อสงสัยหลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแนวทางกัญชา ย้ำ! ไทยไม่จำเป็นที่ต้องทำตามประเทศอื่น เพราะว่าไม่ผิดกติการะหว่างชาติ เพราะว่าเน้นการแพทย์ และสินค้าสุขภาพ ไม่เคยหนุนความสนุกสนาน ในร่างพรบ.กัญชงกัญชาไม่เคยมี แม้กระนั้นร่างพรรคก้าวไกลกลับไฟเขียวสันทนาการ

อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนวันที่ 19 กรกฎาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี

และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ตอบชี้แจงภายหลังจาก นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผุู้แทนราษฎร มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจหลักการกัญชา ว่า หลักการนี้เป็นหลักการรัฐบาล อยู่ในหมวดเร่งด่วน คณะรัฐมนตรีได้แถลงเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาว่า แนวนโยบายกัญชาไม่ขัดกับอนุสัญญาโดดเดี่ยว หากอนุญาตให้นำมาใช้ทางการแพทย์ โดยท่านนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ให้นำกัญชากัญชงไปทำการค้นคว้าให้ก่อคุณประโยชน์เศรษฐกิจ โดยเน้นไปด้านการแพทย์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์สุขภาพ ไม่มีคำว่า นันทนาการ หรือสันทนาการแม้แต่นิดเดียว

นี่เป็น คำแถลงต่อรัฐสภา รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปฏิบัติมาตรการอะไรก็ตามที่นอกเหนือจากแผนการรัฐบาลที่ให้คำมั่นกับพสกนิกร โดยย้ำการนำกัญชากัญชงมาใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ และก็สุขภาพ เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่มีข้อความสำคัญอื่น

ย้ำ! ไม่มีช่องว่างช่องโหว่ในทางปฏิบัติ

นายไดอารี่ กล่าวอีกว่า แม้มีการใช้ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการแพทย์หรือสุขภาพ โน่นคือการใช้ที่ผิดเจตนารมย์ ชมสดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่ถูกต้องตามกฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพราะประกาศและก็จำเป็นต้องเคารพ ซึ่งสมาชิกที่อภิปรายพูดว่า ไม่มีข้อปฏิบัติใช้ ไม่มีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม แล้วเพราะอะไรในนั่นเขียนว่า ผู้ดำเนินงานจำเป็นต้องขอ ถ้าหากทำเช่นนี้ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ควรมีการเปรียบเทียบปรับ มีโทษจำคุกถ้าข้อผิดพลาดรุนแรง สิ่งเหล่านี้มีอยู่หมด จะมีพ.ร.บ.หรือไม่ แต่ว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขครอบคลุมหมดแล้ว ใครใช้แบบผิด เจ้าหน้าที่ประเทศฟ้องได้

“ด้วยเหตุนี้ คำว่า มีช่องว่างช่องโหว่ ในทางปฏิบัติ ไม่มี และก็พ.ร.บ.กัญชากัญชง มีการประชุมทุกเมื่อเชื่อวันจันทร์และวันศุกร์ และก็มีผู้ชำนาญทุกด้าน ผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะมีพ.ร.บ.กัญชากัญชงออกมาอย่างมีคุณภาพ ถือเป็นกฎหมายที่ดีมากๆเนื่องจากคณะกรรมาธิการพวกนั้นได้ได้โอกาสฟัง” นายอนุทิน กล่าว

รองนายกฯรวมทั้งรัฐมนตรีว่าการสธ. กล่าวอีกว่า กัญชา มีคุณสมบัติทางด้านการแพทย์ มีทั้งยังลดคลื่นไส้คลื่นไส้จากเคมีบำบัดรักษา รักษาโรคลมชัก ลดภาวการณ์กล้ามเนื้อหดเกร็ง ลดสภาวะปวดประสาทส่วนกลาง ลดสภาวะการเบื่ออาการ ในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็ง คนไข้เอดส์ แล้วก็เพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้เจ็บป่วยแบบจุนเจือ อันนี้ผลวิจัยของกรมการแพทย์ ไม่ใช่การคาดคะเนของคนใดคนหนึ่ง และก็ยังสามารถส่งเสริมให้สารสกัดกัญชาอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร อีก 8 รายการ โดยกรมการแพทย์แผนไทยรวมทั้งแพทย์โอกาสประกาศบัญชีรายชื่อตำรับยากัญชาถึง 16 ตำรับ และยาเหล่านี้ประยุกต์ใช้เพื่อรักษาโรค หรือใช้ในการทำการค้นคว้าได้ เพราะมีประสิทธิผล มีความปลอดภัย เอาไปใช้โดยครอบคลุมค่าครองชีพในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นายสมุดบันทึก กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีการทำการศึกษากัญชาด้านการแพทย์ จากที่แพทย์วาโย ได้อภิปรายไว้ ใช่ขอรับที่พูดว่า มีการทำก่อนผมเข้ามา เพราะเหตุว่าประธานกระทรวงฯ สมัยก่อนที่จะผมจะเข้ามา เห็นว่า กัญชา มีคุณประโยชน์ด้านการแพทย์ และมีคุณประโยชน์กับสามัญชน โดยผมเข้ามาต่อยอดจากสิ่งที่วางไว้เป็นโครงหลัก โดยทำให้นโยบายกัญชงกัญชา เป็นประโยชน์ต่อราษฎร โดยเห็นได้ชัดคือ เราลดการนำเข้ายาเคมีจากต่างแดน อีกทั้งยาลดเครียด อย่างใช้น้ำมันกัญชา แม้กระนั้นการใช้ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะสกัดได้หมด ต้องผ่านการยินยอมก่อน โดยคนเจ็บสามารถรับการดูแลและรักษาได้ตามสถานพยาบาลกัญชาจากโรงพยาบาลทั่วราชอาณาจักร ซึ่งผู้อภิปรายถ้าหากไปชมตาม รพ.ใหญ่ๆจะเห็นว่า มีผู้เข้ารับบริการเยอะมากๆ

ตอบโต้กลับร่างกฎหมายพรรคก้าวไกล มีสันทนาการ

“ขอการันตีว่า รัฐบาลไม่ได้ส่งเสริมใช้กัญชาไปในทางที่ผิดประเภท หรือสันทนาการ ในร่างพระราชบัญญัติควบคุมกัญชงกัญชาที่กำลังแปรญัตติอยู่ก็ไม่ได้มีการใช้ในทางความสนุกสนาน แม้กระนั้นในร่างพ.ร.บ.ของผู้อภิปรายหรือพรรคก้าวหน้า ยังเขียนเรื่องนี้ว่า อนุญาตให้ใช้ในความสนุกสนานหรือนันทนาการ แต่มีเขียนว่าควบคุมยังไง กำหนดโซนนิ่งต่างๆซึ่งก็ต่างกัน อันนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า ในส่วนของผมที่ควบคุมแผนการกัญชงกัญชาผ่านกระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยช่วยเหลือให้ใช้เรื่องนันทนาการอะไร” นายบันทึกประจำวัน กล่าว

นายอนุทิน ตอบเรื่องที่น่าสงสัยข้อประสงค์ดีว่า กัญชาขัดอนุสัญญาเดี่ยวหรือเปล่า ว่า การนำกัญชาไปใช้ในแนวทางที่ไม่ถูกต้องไม่สมควรและก็ไม่เหมาะสม แน่ใจว่าไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลยุคนี้ แล้วก็เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลสมัยไหนทำ ซึ่งการปฏิบัติการต่างๆจนถึงมาถึงเวลานี้ เราผ่านคณะกรรมการหลายชุด อีกทั้งคณะกรรมการควบคุมสารเสพติด คณะกรรมการป้องกันแล้วก็ปราบยาเสพติดแห่งชาติ มีการดีเบตเยอะพอควร สิ่งจำเป็นคือ ตรงข้ามกฎหมายนานาประเทศหรือเปล่า

“คำตอบเป็น ถ้าหากใช้ในทางการแพทย์ ในทางสุขภาพ การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มิได้เกิดอันตรายต่อสภาพร่างกาย คือ ไม่ผิดแนวทาง ไม่ผิดต่อข้อตกลงใดๆก็ตามที่ผูกมัดประเทศไทยไว้”

ระหว่างรอข้อบังคับ มีกลไกควบคุมการเข้าถึงเด็กเยาวชน

ดังนี้ หากแม้กัญชา ไม่ใช่สิ่งเสพติดอีกต่อไป เราก็ต้องระมัดระวังในการใช้ โดยยิ่งไปกว่านั้นส่วนที่เยาวชนจะเข้าถึง ส่วนที่เป็นนันทนาการ และก็ส่วนที่นำมาใช้ประกอบอาหารในร้านอาหาร ซึ่งแน่ใจว่า พระราชบัญญัติที่กำลังดำเนินการจะควบคุมกิจกรรมเหล่านี้ได้ ด้วยเหตุว่าคณะกรรมาธิการจะได้ฟังข้อหวังดีต่างๆเหล่านี้

ระหว่างนี้จะมีกลไกสำหรับการใช้พืชกัญชงกัญชา สำคัญๆคือ การควบคุมการเข้าถึงเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ และรัฐมนตรี รวม 11 คน หลังฝ่ายค้านเตรียมโหมโรงหนัก ต้องการล้มรัฐบาลประยุทธ์ให้ได้เป็นครั้งสุดท้าย เรามีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการควบคุม , หัวข้อการควบคุมการใช้ที่ไม่ถูกจุดมุ่งหมายก่อเกิดกลิ่นหรือควันกัญชา พวกเราออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขการกำหนดพฤติกรรมให้เกิดกลิ่นหรือควันกัญชา หรือพืชประเภทอื่นใดเป็นเหตุเบื่อหน่าย , ด้านการควบคุมการใช้ทำกับข้าวสำเร็จ ได้ออกประกาศกรมอนามัยสำหรับในการนำใบกัญชามาใช้ในการเป็นส่วนผสม แต่ว่าช่อดอกใช้ไม่ได้ ผิดกฎหมาย ยิ่งไม่แจ้งยิ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มีทั้งโทษอาญา ทั้งยังปรับและก็ติดคุก

“กระทรวงสาธารณสุขกำลังติดต่อทำความเข้าใจ ว่า การใช้ช่อดอกกัญชาไม่สามารถที่จะกระทำได้ ส่วนประชาชนที่กังวล ข้อบังคับกำลังออกมา เพราะรัฐบาลได้กระทำตามแผนการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ก็จะมีการรีบออกกฎหมายมาใช้ มีการกลั่นกรอง แปรญัตติ และก็จะนำสู่สภานิติบัญญัติพิเคราะห์ถัดไป การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จึงขอร้องสมาชิกทั้งคู่ที่ประชุมให้เร่งบัญญัติกฎหมายฉบับนี้อย่างรวดเร็ว มุ่งหวังว่า จะให้เสร็จสมบูรณ์ในยุคการสัมมนาที่ประชุมนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้รวมทั้งลดความรู้สึกกังวลพสกนิกร”

กัญชา ไม่คืนสู่สารเสพติด และไทยไม่ต้องทำตามประเทศอื่น เนื่องจากว่าไม่ผิดข้อตกลงใดๆก็ตาม

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่า จะให้กัญชาคืนกลับสู่สิ่งเสพติด สิ่งที่ออกมาเราคิดว่า พวกเราสามารถควบคุมการใช้กัญชาแบบผิดวิธีได้ การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติ เมื่อพวกเราประกาศออกจากยาเสพติด เราจำเป็นต้องคิดว่า กัญชาไม่ใช่สารเสพติด จะต้องมองดูเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ สามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ ถ้าเราหยุดทุกอย่าง จะมีอะไรตกที่นั่งลำบากไหมถ้าหากว่าไม่มีกัญชาเป็นยารักษาโรค คนปกติก็ไม่ลำบาก แม้กระนั้นผู้ป่วยหวานใจษาโรคมานานแล้ว คนไข้โรคมะเร็ง พวกเขากินอาหารได้ หากแม้ขั้นต่ำไม่สามารถทำให้รอด แต่ว่าช่วยทุเลาความไม่สบาย ก็เลยคิดแล้วว่าจะต้องควบคุมให้สูงที่สุด และต้องไม่ให้มีการใช้ในทางไม่ถูกจำเป็นต้อง เมื่อกฎหมายมี ข้าราชการประเทศชาติมีก็พร้อมฟ้องร้องผู้ไม่กระทำตามข้อบังคับ ซึ่งโทษมีอยู่ แต่ว่าเป็นเรื่องใหม่ จึงบางทีอาจติเตียนก่อน แม้กระนั้นถ้าเกิดทำอีกก็ลงทัณฑ์หนักขึ้น ในขณะนี้ก็มีการกำชับเจ้าหน้าที่ประเทศให้ช่วยดูแลการบังคับกฎหมาย เนื่องจากหากแม้เป็นประกาศกระทรวงฯ แต่มีผลทางกฎหมายสำหรับเพื่อการบังคับใช้ได้

“เรื่องกัญชา เมืองไทยไม่จำเป็นที่จะต้องประพฤติตามประเทศอื่นๆพวกเราก็เป็นตัวของเรา

เพราะว่าไม่ผิดกติกาใดๆก็ตามพวกเราเน้นเป็นพืชเศรษฐกิจ เป็นช่องทางของพลเมืองของคนทำมาหากิน ได้สร้างอาชีพเสริม เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจทำเป็นอุตสาหกรรม เกิดการว่าจ้าง และก็จริงๆส่งออกได้ ผู้ประกอบธุรกิจจะมีตลาดของเขา” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย

ดังนี้ นายสมุดบันทึก ได้ตอบปัญหาจากสมาชิกพรรคก้าวหน้า “นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง”เรื่องประกาศเกี่ยวกับกัญชา ว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เป็นประกาศที่รัฐมนตรีจำเป็นต้องเอาอย่างคำแนะนำของคณะกรรมการ

ป.ป.ส. ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ส.ลงความเห็นเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ โดยเราได้ขอให้ประกาศมีผลบังคับใช้ในราชกิจจาฯ 120 วันก็มาตกที่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ที่บอก

ว่าจะเลื่อนออกไป ไม่เลื่อน เพราะเหตุว่ากระบวนการทั้งหมดทุกอย่างกระทำตามเหมาะแก่เหตุแล้ว เพราะเหตุว่ายื่นมาที่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว และดำเนินการตามขั้นตอนทั้งสิ้น
“ส่วนในกรณีที่ปรากฎในวิดีโอคลิป ขอให้ดูอีกทั้งคลิป อย่าดูสั้นๆเพราะคลิปตัดต่อได้ และการพูดกับประชาชน บางทีอาจชวนขันบ้าง แม้กระนั้นในอนาคตผมจะระแวดระวังคำพูดของผม รวมทั้งสิ่งใดที่เป็นการบกวนท่านก็กราบขออภัยด้วย” นายอนุทิน กล่าว   เว็บตรง